10 วิธีการกินอาหารเพื่อสุขภาพที่ดี
| ||
|
เพลงออนไลน์
วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
10 วิธีการกินอาหารเพื่อสุขภาพที่ดี
10 สุดยอดอาหารที่ควรทานทุกวัน
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ไม่ว่าใคร ๆ ก็ล้วนแล้วอยากจะมีสุขภาพที่ดีไม่ต่างกัน ดังนั้น การดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกาย และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จึงเป็นวิธีง่าย ๆ ที่หลาย ๆ คนเลือกใช้และที่สำคัญ มันให้ผลลัพธ์ที่ดีซะด้วยสิ โดยเฉพาะเรื่องการรับประทานอาหารที่ทำให้สุขภาพดีจากภายใน ยิ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำให้ได้ทุกวันเลยล่ะ
1. เบอร์รี่
แม้ว่าผลไม้ตระกูลเบอร์รี่จะเคยเป็นผลไม้ที่หาทานได้ยากในบ้านเรา แต่ในสมัยนี้เห็นจะไม่ใช่อย่างนั้นแล้วล่ะค่ะ เพราะเดี๋ยวนี้เค้ามีขายกันเกลื่อนตามห้างสรรพสินค้า และท้องตลาดบางแห่งด้วยแน่ะ คุณ ๆ รู้ไหมคะว่า ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่นั้น ช่วยในเรื่องของระบบย่อยอาหารได้มากเลยทีเดียว แถมยังมีแอนตี้อ๊อกซิแดนท์ช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์ และที่สำคัญ ยังมีวิตามิน C ที่ช่วยในเรื่องผิวพรรณและหวัดอีกด้วย
2. ไข่ไก่
ไข่ไก่เป็นสุดยอดอาหารที่หาง่ายมาก ๆ แถมยังราคาถูกอีกแน่ะ คุณ ๆ รู้ไหมว่า ไข่ไก่นั้นเป็นแหล่งของโปรตีนคุณภาพสูง ที่ทำให้คุณได้พลังงานแต่ไม่อ้วน แถมมีประโยชน์ในการบำรุงสายตา อ้อ แถมยังมีลูทีนที่จะป้องกันผิวคุณจากการทำลายของแสงแดดอีกด้วย
3. ถั่ว
ถั่วเป็นแหล่งของเหล็ก ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยในการส่งผ่านออกซิเจนจากปอดไปยังเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย โดยในถั่ว 1 ถ้วย จะให้ธาตุเหล็กประมาณ 16 มิลลิกรัม ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่สูงเลยทีเดียว นอกจากนี้ ถั่วยังมีไฟเบอร์ช่วยให้ร่างกายขับถ่ายได้ง่ายอีกด้วย
4. อัลมอนต์ แม็คคาเดเมีย และมะม่วงหิมพานต์
เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ จากการศึกษาของนักโภชนาการ พบว่า ผู้ที่รับประทานเมล็ดพืชเหล่านี้จะมีอายุยืนกว่าผู้ที่ไม่ได้ทานถึง 2 ปีครึ่งเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังมีโอเมก้า 3 เอแอลเอ ที่จะส่งผลให้อารมณ์ดีขึ้น ที่สำคัญยังช่วยลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีด้วย
5. ส้ม
เป็นแหล่งวิตามิน C คุณภาพ ที่มีประโยชน์ต่อการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาว และช่วยสร้างภูมิต้านทานโรค รวมทั้งยังมีไฟเบอร์สูง เป็นแหล่งของแอนตี้อ๊อกซิแดนท์ ที่จะช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากการถูกทำลาย และเสริมสร้างคอลลาเจนในผิว เรียกว่าคุณประโยชน์ครบครันเลยทีเดียว
6. มันเทศ
อาหารที่หาได้ง่าย แถมยังให้ประโยชน์มากมายกับสุขภาพอีก มันเทศเป็นแหล่งเบตาแคโรทีนชั้นดีที่ช่วยในการบำรุงสายตา เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และที่หลาย ๆ คนคิดไม่ถึง คือ มันเทศมีสารต้านมะเร็งสูงอีกด้วยค่ะ
7. บร็อคโคลี่
เป็นแหล่งของวิตามินซี เอ และเค เป็นผักที่มีเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยบำรุงสายตา และมีสารไอโซธิโอไซยาเนทส์ (Isothiocyanates) ที่ช่วยต่อต้านมะเร็งปอด รวมถึงมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ นอกจากนี้ วิตามินเคยังเป็นสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกด้วย
8. ชา
แม้ว่าชาจะเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ไม่ได้ให้ผลดีต่อสุขภาพเท่าไหร่ แต่รู้ไหมว่า การดื่มชาในปริมาณที่พอเหมาะ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นอัลไซเมอร์ มะเร็ง และทำให้สุขภาพฟันและกระดูกแข็งแรงขึ้น เพราะในชานั้นมีสารแอนตี้อ๊อกซิแดนท์ที่เรียกว่า ฟลาโวนอยด์ (flavonoids) ที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพ
9. คะน้า
มีสารเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ มะเร็งปอด รวมถึงมีวิตามินที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ สร้างภูมิต้านทานโรคที่ดี นอกจากนี้ยังมีแคลเซียมเสริมสร้างการทำงานของกระดูก
10. โยเกิร์ต
อาหารสุขภาพที่หลาย ๆ คนมักจะซื้อไว้ติดบ้าน เอาไว้ทานยามหิว และนั่นเป็นสิ่งที่ดีแล้วค่ะ เพราะในโยเกิร์ตนั้นมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี วิตามินบี 12 และโปรตีน ดังนั้น ถ้าคุณทานโยเกิร์ตให้ได้วันละ 1 ถ้วย จะทำให้สุขภาพคุณดีอย่าบอกใครเลยล่ะ
ไม่ว่าใคร ๆ ก็ล้วนแล้วอยากจะมีสุขภาพที่ดีไม่ต่างกัน ดังนั้น การดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกาย และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จึงเป็นวิธีง่าย ๆ ที่หลาย ๆ คนเลือกใช้และที่สำคัญ มันให้ผลลัพธ์ที่ดีซะด้วยสิ โดยเฉพาะเรื่องการรับประทานอาหารที่ทำให้สุขภาพดีจากภายใน ยิ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำให้ได้ทุกวันเลยล่ะ
1. เบอร์รี่
แม้ว่าผลไม้ตระกูลเบอร์รี่จะเคยเป็นผลไม้ที่หาทานได้ยากในบ้านเรา แต่ในสมัยนี้เห็นจะไม่ใช่อย่างนั้นแล้วล่ะค่ะ เพราะเดี๋ยวนี้เค้ามีขายกันเกลื่อนตามห้างสรรพสินค้า และท้องตลาดบางแห่งด้วยแน่ะ คุณ ๆ รู้ไหมคะว่า ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่นั้น ช่วยในเรื่องของระบบย่อยอาหารได้มากเลยทีเดียว แถมยังมีแอนตี้อ๊อกซิแดนท์ช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์ และที่สำคัญ ยังมีวิตามิน C ที่ช่วยในเรื่องผิวพรรณและหวัดอีกด้วย
2. ไข่ไก่
ไข่ไก่เป็นสุดยอดอาหารที่หาง่ายมาก ๆ แถมยังราคาถูกอีกแน่ะ คุณ ๆ รู้ไหมว่า ไข่ไก่นั้นเป็นแหล่งของโปรตีนคุณภาพสูง ที่ทำให้คุณได้พลังงานแต่ไม่อ้วน แถมมีประโยชน์ในการบำรุงสายตา อ้อ แถมยังมีลูทีนที่จะป้องกันผิวคุณจากการทำลายของแสงแดดอีกด้วย
3. ถั่ว
ถั่วเป็นแหล่งของเหล็ก ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยในการส่งผ่านออกซิเจนจากปอดไปยังเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย โดยในถั่ว 1 ถ้วย จะให้ธาตุเหล็กประมาณ 16 มิลลิกรัม ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่สูงเลยทีเดียว นอกจากนี้ ถั่วยังมีไฟเบอร์ช่วยให้ร่างกายขับถ่ายได้ง่ายอีกด้วย
4. อัลมอนต์ แม็คคาเดเมีย และมะม่วงหิมพานต์
เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ จากการศึกษาของนักโภชนาการ พบว่า ผู้ที่รับประทานเมล็ดพืชเหล่านี้จะมีอายุยืนกว่าผู้ที่ไม่ได้ทานถึง 2 ปีครึ่งเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังมีโอเมก้า 3 เอแอลเอ ที่จะส่งผลให้อารมณ์ดีขึ้น ที่สำคัญยังช่วยลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีด้วย
5. ส้ม
เป็นแหล่งวิตามิน C คุณภาพ ที่มีประโยชน์ต่อการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาว และช่วยสร้างภูมิต้านทานโรค รวมทั้งยังมีไฟเบอร์สูง เป็นแหล่งของแอนตี้อ๊อกซิแดนท์ ที่จะช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากการถูกทำลาย และเสริมสร้างคอลลาเจนในผิว เรียกว่าคุณประโยชน์ครบครันเลยทีเดียว
6. มันเทศ
อาหารที่หาได้ง่าย แถมยังให้ประโยชน์มากมายกับสุขภาพอีก มันเทศเป็นแหล่งเบตาแคโรทีนชั้นดีที่ช่วยในการบำรุงสายตา เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และที่หลาย ๆ คนคิดไม่ถึง คือ มันเทศมีสารต้านมะเร็งสูงอีกด้วยค่ะ
7. บร็อคโคลี่
เป็นแหล่งของวิตามินซี เอ และเค เป็นผักที่มีเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยบำรุงสายตา และมีสารไอโซธิโอไซยาเนทส์ (Isothiocyanates) ที่ช่วยต่อต้านมะเร็งปอด รวมถึงมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ นอกจากนี้ วิตามินเคยังเป็นสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกด้วย
8. ชา
แม้ว่าชาจะเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ไม่ได้ให้ผลดีต่อสุขภาพเท่าไหร่ แต่รู้ไหมว่า การดื่มชาในปริมาณที่พอเหมาะ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นอัลไซเมอร์ มะเร็ง และทำให้สุขภาพฟันและกระดูกแข็งแรงขึ้น เพราะในชานั้นมีสารแอนตี้อ๊อกซิแดนท์ที่เรียกว่า ฟลาโวนอยด์ (flavonoids) ที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพ
9. คะน้า
มีสารเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ มะเร็งปอด รวมถึงมีวิตามินที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ สร้างภูมิต้านทานโรคที่ดี นอกจากนี้ยังมีแคลเซียมเสริมสร้างการทำงานของกระดูก
10. โยเกิร์ต
อาหารสุขภาพที่หลาย ๆ คนมักจะซื้อไว้ติดบ้าน เอาไว้ทานยามหิว และนั่นเป็นสิ่งที่ดีแล้วค่ะ เพราะในโยเกิร์ตนั้นมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี วิตามินบี 12 และโปรตีน ดังนั้น ถ้าคุณทานโยเกิร์ตให้ได้วันละ 1 ถ้วย จะทำให้สุขภาพคุณดีอย่าบอกใครเลยล่ะ
วันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
ข้าวผัดปู
สูตรข้าวผัดปู สุดยอดกลิ่นหอมของเนื้อปู
ขึ้นชื่อว่า ข้าวผัดปู เป็นอาหารจานด่วน ที่ทานได้ทันที ทำได้เร็ว รสชาติดี สำหรับท่านที่ต้องการทานหรือชอบเนื้อปูเป็นพิเศษ ขอแนะนำอาหารจานนี้เลยครับ รับรองว่าท่านได้โปรตีนและเนื้อปูล้วนๆ ทานกับพริกน้ำปลาแล้วละก็ท่านจะลืมข้าวผัดทั่วๆไปได้เลย การทำก็ไม่ยุ่งยากสามารถซื้อเครื่องไว้ก่อน แต่ปูก็ต้มแล้วให้สุกแกะเป็นเนื้อปูเตรียมรอไว้ทำทีเดียว มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
วัตถุดิบในการทำข้าวผัดปู
1. ข้าวสวย หอมมะลิ 2 ถ้วย
2. เนื้อปูทะเลต้มแกะแล้ว 1 ตัว
3. ไข่ไก่ 2 ฟอง
4. ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
5. ผักชี. 1 ช้อนโต๊ะ
6. กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
7. พริกไทยป่น ½ ช้อนชา
8. น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา
9. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
10. น้ำมัน พืช 4 ช้อนโต๊ะ
11. น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
12. มะนาวผ่าซีก 1 ลูก
13. แตงกวาหั่นเป็นแว่นๆ 1ลูก
14. ต้นหอม 1 ต้น
2. เนื้อปูทะเลต้มแกะแล้ว 1 ตัว
3. ไข่ไก่ 2 ฟอง
4. ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
5. ผักชี. 1 ช้อนโต๊ะ
6. กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
7. พริกไทยป่น ½ ช้อนชา
8. น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา
9. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
10. น้ำมัน พืช 4 ช้อนโต๊ะ
11. น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
12. มะนาวผ่าซีก 1 ลูก
13. แตงกวาหั่นเป็นแว่นๆ 1ลูก
14. ต้นหอม 1 ต้น
ขั้นตอนการทำข้าวผัดปู
1. นำน้ำมันพืช ตั้งไฟให้ร้อน จากนั้นใส่กระเทียมเจียวให้หอม
2. จากนั้นตอกไข่ไก่ ใช้ไข่สองฟองเพื่อเป็นการเพิ่มพลังให้กับร่างก่าย ผัดไข่ให้สุกใช้ไฟกลาง
3. เทข้าวสวยใช้หอมมะลิอย่างดี ใส่เนื้อปูลงไปด้วย แล้วทำการผัดให้เข้ากัน
4. ปรุงรสด้วยพริกไทย น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย
5. ได้ที่แล้ว ใส่ต้นหอม ผักชี โรยหน้า รับประทานใส่จาน พร้อมแตงกวารอเสริฟ
จากนั้นให้ท่านใส่จานรอเสริฟอย่าลืม ต้นหอม แตงกวาหั่นเป็นแว่นๆ แล้วมะนาวผ่าซีก ไว้ข้างจาน เวลารับประทานก็จะเอร็ดอร่อยกับอาหารจานโปรด ข้าวผัดปู เป็นอาหารที่ทำมาได้ไม่ยากและเป็นอาหารจานด่วนจริง ๆ ที่ทุกคนชอบรับประทาน ไม่ว่าจะเด็ก หรือผู้ใหญ่ ต่างก็ชอบข้าวผัดปูกันทั้งนั้น.
2. จากนั้นตอกไข่ไก่ ใช้ไข่สองฟองเพื่อเป็นการเพิ่มพลังให้กับร่างก่าย ผัดไข่ให้สุกใช้ไฟกลาง
3. เทข้าวสวยใช้หอมมะลิอย่างดี ใส่เนื้อปูลงไปด้วย แล้วทำการผัดให้เข้ากัน
4. ปรุงรสด้วยพริกไทย น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย
5. ได้ที่แล้ว ใส่ต้นหอม ผักชี โรยหน้า รับประทานใส่จาน พร้อมแตงกวารอเสริฟ
จากนั้นให้ท่านใส่จานรอเสริฟอย่าลืม ต้นหอม แตงกวาหั่นเป็นแว่นๆ แล้วมะนาวผ่าซีก ไว้ข้างจาน เวลารับประทานก็จะเอร็ดอร่อยกับอาหารจานโปรด ข้าวผัดปู เป็นอาหารที่ทำมาได้ไม่ยากและเป็นอาหารจานด่วนจริง ๆ ที่ทุกคนชอบรับประทาน ไม่ว่าจะเด็ก หรือผู้ใหญ่ ต่างก็ชอบข้าวผัดปูกันทั้งนั้น.
ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จาก http://toptenthailand.com
แกงกะหรี่ไก่
สูตรแกงกะหรี่ไก่ ที่ได้กลิ่นหอมและรสชาติสมุนไพร
แกงกะหรี่ไก่ จานนี้ต้องขอบอกและยกนิ้วให้เลยสำหรับท่านทื่ทานอยู่ รับรองได้เลยว่าเป็นอาหารจานโปรดของใครหลายๆคน เพราะ แกงกะหรี่ไก่ มีรสชาติอร่อย มีกลิ่นชวนหอมของ ยี่หร่าคั่ว ผงกะหรี่ ลูกผักชีคั่ว ได้รสชาติสมุนไพรเลยก็ว่าได้ หอม สดด้วยเนื้อไก่ชิ้นโต และด้วยน้ำของ แกงกะหรี่ไก่ นั้นไม่ต้องบอกเลยว่าอร่อยสุดๆไปเลยรับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ ท่านจะลืมกับข้าวจานอื่นไปได้เลย รับรองไม่เชื่อลองทานดูได้ จะหาว่าโม้กัน มีการทำเริ่มกันได้เลยตามนี้แกงกะหรี่ไก่จานโปรดของเรา
เครื่องปรุงในการทำแกงกะหรี่ไก่
- เนื้ออกไก่หั่นเป็นชิ้นใหญ่ 500 กรัม
- มะพร้าวขูด 400 กรัม
- มันฝรั่งหัวเล็กต้ม 3 หัว
- หอมแดงเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 2 ช้อนชา
เครื่องแกง
- พริกแห้งเม็ดใหญ่แกะเมล็ดออกแช่น้ำ 3 เม็ด
- หอมแดงเผา 5 หัว
- กระเทียมเผา 10 กลีบ
- ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- ข่าหั่นละเอียด ขิงหั่นคั่วอย่างละ 1 ช้อนชา
- ลูกผักชีคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
- ยี่หร่าคั่ว 1 ช้อนชา
- ผงกะหรี่ 2 ช้อนชา
กะปิ เกลือป่น อย่างละ 1 ช้อนชา
เครื่องอาจาด
- แตงกวาหั่นชิ้นเล็ก 4 ลูก
- หอมแดงซอย 2 หัว
- พริกชีฟ้าหั่นแว่น 1 เม็ด
- น้ำส้มสายชู 1/3 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
วิธีทำแกงกะหรี่ไก่
1.นำพริกแห้งเม็ดใหญ่ หอมแดง กระเทียมเผา ตะไคร้ซอย ข่าหั่นละเอียด โขลกเข้ากัน นำ ลูกผักชีคั่ว ยี่หร่าคั่ว ผงกะหรี่ ทำการโขลกต่อผสมให้เข้ากัน
2.คั้นมะพร้าวใส่น้ำ 2 ถ้วย จากนั้นคั้นเอาหัวกะทิ 1 ถ้วย หางกะทิ 1 ถ้วย
3.เริ่มผัดน้ำพริกแกง กับน้ำมันที่เจียวด้วยหอมแดง ค่อยๆใส่หัวกะทิ ผัดให้ได้กลิ่นหอม
4. ใส่หัวกะทิ ใส่เนื้อไก่ทำให้สุก จากนั้นเติมหางกะทิลงไป ตามด้วยเกลือ
5.ใส่มันฝรั่งต้ม ลงไปคนให้เข้ากัน
6.นำตักใส่ชามเพื่อรอเสริฟ โรยหน้าด้วยหอมแดงเจียว
การทำอาจาด
เริ่มนำเคี่ยวน้ำส้มสายชู น้ำตาล เกลือ ให้ละลายเข้ากันดี จากนั้นก็ใส่แตงกวา หอมแดง พริกชี้ฟ้า
ก่อนการรับประทานทุกครั้ง
ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จาก http://www.9leang.com
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)